บุกพิสูจน์แสงไฟประหลาด ชาวบ้านเชื่อ เป็นของคนที่มีวิชาอาคมปล่อยออกมาหากิน
วันที่ 20 เม.ย. 2565 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “ฟิล์ม อินทร” ได้โพสต์คลิปวีดีโอและข้อความว่า ของเเท้เลยครับสดๆร้อนๆกำลังนั้งโซโล่ท่อมอยู่พอดีเวลานี้ 02.39 เวลานี้ไม่หน้ามีไครดีดมาเล่นโดรนบังคับ จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังผู้ที่โพสต์เฟซบุ๊กรายดังกล่าว เล่าว่า เมื่อเวลา 02.39 น. ของคืนวันนี้ ในขณะที่ตนเองกับเพื่อนประมาณ 8-9 คน นั่งคุยเล่นกันอยู่บ้านอยู่ติดทุ่งนา จากนั้นตนเห็นแสงไฟจึงได้เรียกเพื่อนว่ามันคือแสงอะไร ใช่ปอบหรือผีโพงหรือเปล่า จากนั้นตนเองก็พากันวิ่งออกมาดูปรากฏว่า มีแสงไฟประหลาดสีแดงขนาดใหญ่ ลอยขึ้นเหนือทุ่งนาบ้านโคกยาง ไปทาง บ้านโคกบุ ต.โคกยาง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จากนั้นตนเองจึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพเอาไว้เพื่อเอามาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กให้เพื่อนๆ ได้ดู
ทั้งนี้ เพื่อนบางคนก็เคยเห็น บางคนก็ไม่เคยเห็น แสงไฟสีแดงลอยขึ้นช่วง ซึ่งตนเองได้เห็น ก็รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร เพราะเห็นแสงไฟสีแดง หรือที่ชาวบ้านในแถบนี้เขาเรียกว่า ผีปอบหรือผีโพง ออกมาบ่อย ส่วนใหญ่ผีปอบหรือผีโพง จะออกหากินช่วงหน้าฝน เพราะหากินได้ง่าย เพราะมีกบ , เขียด , ปลาค่อนข้างเยอะ แต่ปีนี้ถือว่าเห็นไม่ค่อยพบบ่อยมากนักเหมือนปีที่แล้ว ที่แสงสีแดง หรือผีปอบหรือผีโพงออกบ่อยมากๆ จนเป็นข่าวดังอยู่บ่อยครั้งเมื่อปีที่แล้ว และครั้งนี้ตนคิดว่า ที่เห็นน่าจะเป็นคนที่เล่นของ หรือลองวิชา หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ โดยชาวบ้านเชื่อว่าแสงสีแดงเป็นผีปอบหรือผีโพงนั้น ออกมาหากิน เพราะเริ่มแห้งแล้ง ผีปอบหรือผีโพงอาจจะหิว เลยออกมาให้ชาวบ้านได้เห็น หรือคนเรียนวิชามาลองของก็อาจจะเป็นได้
ล่าสุดวันนี้ 21 เม.ย.65 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง บ้านละลม ต.โคกยาง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ทีมข่าวได้พบกับ นางมะลิวรรณ์ ขาวงาม อายุ 67 ปี ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนนั้นเห็นแสงไฟประหลาดสีแดงนี้อยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่เด็กๆจนถึงปัจจุบัน โดยจะเห็นแสงไฟนี้ต่ายตามรั้วกำแพงบ้าน และ ลอยสูงขึ้นจนถึงบนยอดไม้ไปเรื่อยๆลอยไปตามทุ่งนาและหายเข้าป่าไป เมื่อตนเป็นเด็กๆนั้นจะกลัวมาก โดยส่วนตัวตนเชื่อว่าผีปอบผีโพงนั้นมีจริงๆ เพราะตนเองเห็นมากับตา ตนจึงเชื่อว่ามีจริง นางมะลิวรรณกล่าว
นาย วินัย ครบอยู่ อดีตข้าราชการเกษียณได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนนั้นเห็นอยู่บ่อยๆแสงไฟสีแดงๆจะลอยอยู่ตามทุ่งนาจะมาบ่อยช่วงฝนตก ซึ่งในความเชื่อของตนนั้น ดวงไฟสีแดงพวกนี้จะออกมาหากินกบเขียด แต่เดี๋ยวนี้จะไม่ค่อยเห็นบ่อยแล้วเพราะของพวกนี้จะตายตามเจ้าของที่เลี้ยงไป (คนมีวิชาอาคมเล่นของ) นายวินัยยังเล่าต่ออีกว่า ตอนเมื่อพ่อตนนั้นยังมีชีวิตอยู่ ตนและพ่อตนเห็นแสงสีแดงประหลาดลอยอยู่ที่ทุ่งนาของตน พ่อและตนนั้นจึงออกไปดู โดยที่พ่อตนนั้นเป็นคนมีวิชาอาคมติดตัว ได้ออกไปเดินดูวนๆรอบทุ่งนา พอพบแสงไฟดังกล่าวลอยอยู่พ่อตนจึงใช้วิชาจับ “อาบ” มาถือไว้ในมือ (สิ่งที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสิ่งที่เป็นคนมีวิชาอาคาเลี้ยงไว้แล้วปล่อยออกมาหากิน) ซึ่งมีลักษณะเป็นตลับขี้ผึ้งตลับเล็กๆ และนำกลับมาบ้านเพื่อจะนำไปเผาทิ้ง แต่ยังไม่ทันเผา รุ่งเช้ามา เจ้าของตลับขี้ผึ้งดังกล่าว (อาบ) ก็ได้มาขอของคืนจากพ่อตน พ่อตนก็คืนให้ไป ตนนั้นเห็นกับตาจึงมีความเชื่อมาจนถึงทุกวันนี้ ว่ามีสิ่งของพวกนี้อยู่จริง
ภาพ/ข่าว: เขมชาติ ชุณหกิจขจร/รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดสุรินทร์