กรมเจ้าท่าปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำ 1 เเสนตัว ประมงพื้นบ้านเผย ขุดลอกร่องน้ำสร้างประโยชน์ให้คนในพื้นที่มีอาชีพสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 65 ที่ หน้าโรงเรียนบ้านดาโต๊ะ หมู่ที่ 4 ตำบลแหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี นายเรวัต โพธิ์เรียง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 และนายอนันต์ แก้ววิเชียร ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ร่วมกันเปิดโครงการเจ้าท่าร่วมใจปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำ ลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ จำนวนกว่าหนึ่งเเสนตัว โดยมีนางสาวณิชาวีร์ สะมะอูน ปลัดอำเภอยะหริ่ง เป็นประธานเปิดงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมฟื้นฟูระบบนิเวศน์บริเวณเเนวร่องน้ำธรรมชาติ สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ตามเเนวร่องน้ำธรรมชาติ ทำให้ปริมาณสัตว์น้ำเพิ่มขึ้น ฟื้นฟูระบบนิเวศน์ให้คงสภาพสมบูรณ์ ชาวบ้านเเละประมงพื้นบ้านก็สามารถสร้างรายได้เลี้ยงชีพให้กับครอบครัว
สำหรับร่องน้ำลาโจ๊ะกู ร่องน้ำลาโจ๊ะ เเละร่องน้ำดาโต๊ะ เป็นร่องน้ำที่มีความสำคัญอย่างมากต่อคนในพื้นที่อำเภอยะหริ่ง เป็นพื้นที่กักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร เพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และยังเป็นพื้นที่ระบายน้ำในฤดูน้ำหลากได้เป็นอย่างดี ทางสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 สำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการขุดลอกทั้งสิ้น 3 เเห่งร่องน้ำลาโจ๊ะกู ร่องน้ำลาโจ๊ะ และร่องน้ำดาโต๊ะ เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูแนวร่องน้ำธรรมชาติ ให้เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น ประชาชนได้มีสัตว์น้ำไว้บริโภค และสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 ได้ดำเนินการขุดลอก จำนวน 3 ร่องน้ำ 1.ลาโจ๊ะกู ระยะทาง 700 เมตร วัสดุขุดลอก 27,321.25 ลูกบาศก์เมตร 2. ร่องน้ำลาโจ๊ะ ระยะทาง 200 เมตร วัสดุขุดลอก 6,677.75 ลูกบาศก์เมตร 3. ร่องน้ำดาโต๊ะ ระยะทาง 350 เมตร วัสดุขุดลอก 14,360.50 ลูกบาศก์เมตร รวมระยะทาง 1,250 เมตร รวมปริมาณเนื้อดินที่ขุดลอก จำนวน 47,759.50 ลูกบาศก์เมตร ระยะเวลาดำเนินการ 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2564 ความก้าวหน้าของโครงการประมาณร้อยละ 81 คาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนงานภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 หลังจากดำเนินการขุดลอกร่องน้ำแล้วเสร็จ
นายเรวัต โพธิ์เรียง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการขุดร่องน้ำให้กับชาวบ้านมาโดยตลอด เพื่อให้ชาวบ้านออกเรือหาปลาได้สะดวก ไม่ใช่ต้องรอน้ำขึ้นน้ำลง นอกจากนี้การขุดร่องน้ำก็จะช่วยระบายน้ำในช่วงน้ำท่วม ให้ไหลลงไปสู่อ่าวปัตตานี ภายหลังจากกรมเจ้าท่าได้ทำการขุดร่องน้ำเสร็จสิ้น ระบบนิเวศน์กลับเป็นธรรมชาติแล้ว ก็ได้มีโครงการปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำลงสู่เเม่น้ำเพื่อเพิ่มจำนวนกุ้งพันธุ์ในเเม่น้ำเเละยังเพิ่มเเหล่งที่อยู่อาศัยสัตว์น้ำ ทำให้ประมงพื้นบ้านมีรายได้ เเละยังคงความอุดมสมบูรณ์ให้กับอ่าวปัตตานี
นายมะรอนิง สาเเละ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านชายเเดนใต้ เปิดเผยว่า ตนหวังว่าการปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำในครั้งนี้ ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ตำบลแหลมโพธิ์จะได้รับประโยชน์อย่างมาก เชื่อว่าประมาน 7-8 เดือน กุ้งกุดำก็จะเจริญเติบโตขึ้น และชาวบ้านก็จะได้นำอวนมาดักกุ้ง จนสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยปกติกุ้งในธรรมชาติก็มีอยู่แล้ว แต่ถ้ามีหน่วยงานรัฐเข้ามาปล่อยเพิ่มก็จะทำให้มีกุ้งเพิ่มขึ้นอีก และเป็นโอกาสของชาวบ้านที่จะใช้ประโยชน์ในการหารายได้เลี้ยงชีพ
ซึ่งที่ผ่านมาทางภาครัฐที่ได้ดำเนินการขุดร่องน้ำนั้น ที่เดิมก็เป็นร่องน้ำอยู่แล้ว แต่ทุกปีก็จะเจอปัญหาการตื่นเขิน เนื่องจากบริเวณนี้มีตะกอน และขี้เลนมาก ทำให้เรือสัญจรได้ยากลำบาก กรมเจ้าท่าก็เห็นความสำคัญกับเรื่องนี้จึงได้มาขุดทรายออกไป ซึ่งเป็นประโยชน์มาก ถ้าไม่ขุดชาวบ้านก็จะออกเรือไปหาปลาไม่ได้ เพราะเรือจะติดเนินทราย และต้องเสียเวลา ชาวประมงบางรายเรือก็ได้รับความเสียหาย เช่นใบพัดเรือ ท้องเรือ ภายหลังจากกรมเจ้าท่าเข้ามาทำการขุดลอก ทำให้ชาวบ้าน ประมงพื้นบ้านสะดวกในการเดินเรือมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างก็เห็นด้วยเเละดีใจอย่างมากสำหรับโครงการขุดลอกร่องน้ำ ทำให้ชาวบ้านมีงาน มีอาชีพเเละมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัวอีกด้วย
ตอริก สหสันติวรกุล ปัตตานี