เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุรถกระบะพลิกคว่ำเสียชีวิต 4 ศพหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุพร้อมกับหาทางป้องกันและแก้ไข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อบ่ายวันที่ 9 พ.ค. 65 ที่ถนนสายโชคชัย – เดชอุดม บริเวณใกล้ทางแยกเข้าบ้านชำแระ หมู่ที่ 12 ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ นายประสิทธิ์ บุญเสนอ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์และการจัดการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับ นายประสบผล สุภาพ นายกเทศมนตรีตำบลสำโรงพลัน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงศรีสะเกษที่ 1 เจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอไพรบึง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลไพรบึง เจ้าหน้าที่ รพ.สต. และผู้แทนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงพื้นที่ซึ่งได้เกิดอุบัติเหตุรถกระบะพลิกคว่ำเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 1 ราย เพื่อดูที่เกิดเหตุก่อนที่จะร่วมประชุมกันที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลตำบลสำโรงพลัน เพื่อหารือกันถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้
สืบเนื่องจากเมื่อบ่ายวันที่ 6 พ.ค.65 เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะแค็ป ทะเบียน 2 ฒท 5471 กทม.ชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างข้างทางถนนสายโชคชัย – เดชอุดม ใกล้ทางแยกเข้าบ้านชำแระ หมู่ที่ 12 ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง เป็นเหตุให้นายเกรียงเดช กันยาพันธ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ที่ 9 ต.นาเจริญ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี คนขับเสียชีวิตคาที่ ต่อมานายสมเฉลา แดงนา และ ด.ช. ธนากฤต กันยาพันธ์ เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนนางคำตา วงค์คำผา และ ด.ญ. สุภาตา กันยาพันธ์ อาการสาหัสถูกส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ซึ่งนางคำตาได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลศรีสะเกษอีกคน อุบัติเหตุครั้งนี้มีผู้นั่งมาในรถ 5 คนทั้งคนขับ เสียชีวิต 4 คน เหลือรอดอยู่เพียงเด็กหญิงคนเดียว
โดยนายประสิทธิ์ บุญเสนอ กล่าวว่า ที่ประชุมได้สรุปการเกิดอุบัติเหตุและมีคนเสียชีวิตหลายรายครั้งนี้ว่า สาเหตุมาจากการขับรถเร็ว ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย คนขับหลับใน ทั้งๆ ที่เป็นเวลากลางวันทัศนวิสัยในการมองเห็นชัดเจน ถนนเป็นทางตรง คนขับจะรีบเดินทางให้ถึงที่หมายโดยเร็วจึงขับรถเร็ว เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีความเห็นร่วมกันว่า แนวทางที่จะป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ โดย จะให้มีการจับความเร็วของรถที่วิ่งผ่านเส้นทางถนนโชคชัย-เดชอุดม ช่วงที่ผ่านท้องที่ อ.ขุขันธ์ อ.ไพรบึงไปถึง อ.กันทรลักษ์ เพื่อให้รถทุกคันลดความเร็วลงช่วงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย
นอกจากนั้น ก็จะได้ทำถนนให้นูนขึ้นมาเป็นคลื่นลักษณะก้างปลา เมื่อรถวิ่งมายางล้อรถสัมผัสกับก้างปลาก็จะมีเสียงดังทำให้คนขับที่ง่วงใกล้จะหลับในรู้สึกตัวขึ้นมา การจับความเร็วของรถที่วิ่งผ่านเส้นทางนี้จะใช้การติดตั้งกล้องจับความเร็วของตำรวจทางหลวงและจะให้มีการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างแท้จริงต่อไป” นายประสิทธิ์ กล่าว.
ณัฐธรชนม์ สิริโชติสกุล / ศรีสะเกษ
