จับกุมแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ 32 ราย ขณะมาหลบซ่อนตัวในศาลาโคกเมรุ ต.ท่ามะเดื่อ เพื่อรอผู้มารับเดินทางไป อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.วันที่ 28 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ชาญชัย งามธุระ ผกก.สภ.บางแก้ว ตำรวจขุดตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพัทลุง ,พ.ต.ท.ชัยวรุฒม์ พร้อมญาติ รอง ผกก.ตชด. 43 พ.ต.ต.ยศพนธ์ แก้วเส้ง ผบ.ร้อย ตชด.434 พัทลุง พ.ต.ต.กฤตภพ แก้วรอด สว.สส. ปฏิบัติราชการ กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.9 ร.ต.อ.บารเมษฐ์ ยอดแดง หน.ศป.ปส.ร้อย ตชด.434 พัทลุง ฝ่ายปกครองอำเภอบางแก้ว จนท.สาธารณสุขอำเภอบางแก้ว จนท.จัดหางานจังหวัดพัทลุง และ จนท.สำนักการข่าว กอ.รมน.จังหวัดพัทลุง ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุพบแรงงานชาวต่างด้าว มาหลบซ่อนอยู่บริเวณ ศาลาโคกเมรุ ท้องที่หมู่ที่ .4 ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง เพื่อเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆต่อไป
จากการตรวจสอบในบริเวณสถานที่ดังกล่าว จนท.พบแรงงานชาวต่างด้าว สัญชาติเมียนมาร์ จำนวน 32 คน เป็นชาย 19 คน หญิง 13 คน จึงได้ควบคุมตัวมายังศาลาประชาคมอำเภอบางแก้ว เพื่อให้ จนท.สาธารณสุขอำเภอบางแก้ว ตรวจ ATK ตามมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไป
ในเบื้องต้นทราบว่าเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 ที่ผ่านมาแรงงานดังกล่าวได้เดินทางจาก เกาะสอง จ.ทวาย ประเทศเมียนมาร์ โดยใช้เส้นทางธรรมชาติ และได้มีรถกระบะนำพามาหลบซ่อนตัวอยู่ใน จ.ชุมพร เข้ามาพักในสวนยางพารา จ.ชุมพร จำนวน 3 วัน โดยมีคนไทย 3 – 4 คน คอยให้ความช่วยเหลือในการส่งน้ำ – ส่งอาหาร เพื่อเตรียมตัวเดินทางมาทำงานในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีการเสียค่านายหน้า คนละ 35,000 บาท
ต่อมาเมื่อ 29 ม.ค.65 เวลาประมาณ 05.00 น. ได้มีบุคคลนำพาออกจากพื้นที่ จ.ชุมพร สู่ปลายทาง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยใช้รถกระบะมีรั้วแบบผ้าปิด จำนวน 2 คัน บรรทุกคันละ 16 คน และเมื่อถึงบริเวณ ศาลาโคกเมรุ ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ได้ให้แรงงานทั้งหมด ลงพักคอย เพื่อที่จะมีบุคคลมารับเข้าพื้นที่ อ.หาดใหญ่ แต่ได้มีชาวบ้านในพื้นที่มาพบเจอ จึงประสาน จนท.เข้าทำการตรวจสอบดังกล่าว จากการตรวจสอบเอกสารในเบื้องต้นพบว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 32 คน ไม่มีหนังสือเดินทาง มีบัตรประชาชน 29 คน ไม่มีบัตรประชาชน 3 คน จึงได้ นำแรงงานทั้งหมดไปตรวจสอบ ATK เพื่อคัดกรองขั้นต้นและมีผลเป็นลบทุกคน จึงได้นำตัวไปมากักตัวสังเกตอาการ 10 วัน ณ ศาลาประชาคมอำเภอบางแก้ว และทำการสอบสวนตามขั้นตอนต่อไป