เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่12 ม.ค.65 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.โชคชัย เหลืองอ่อน รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี, พล.ต.ต.วิวัฒน์ ลีลาเขตต์ ผบก.ขส.บช.ปส.ว่าที่ร้อยตรีอากาศ ปานแย้ม ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภาค1 ,นายรัชพล ปาละกูล ผอ.ส่วนวิเคราะห์ข่าวและเฝ้าระวัง ปปส.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายภูมิเมนทร์ หรือหยก(นามสมมุติ)อายุ 22 ปี ชาว จ.ลพบุรี,นายศราวุธ หรือเบส (นามสมมุติ)อายุ 23 ปี ชาว จ.ลพบุรี, นายอนิรุตย์ หรืออาร์ม (นามสมมุติ)อายุ 22 ปี ชาว จ.ลพบุรี และนายจักกาย หรือตั้ม (นามสมมุติ)อายุ 22 ปี ชาว จ.สระบุรี พร้อมยาบ้า จำนวน 5,390,000 เม็ด,ยาไอซ์ จำนวน 39 กิโลกรัม รถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 ขช-6267 กทม. รถยนต์ซูซูกิ สีเทา หมายเลขทะเบียน กร-3855 ลพบุรี และรถยนต์อีซูซุ สีเทาทะเบียน กร 2603 สระบุรี โดยจับกุมได้บ้านเลขที่ 80/71 หมู่ 2 ต.ป่าตาล อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี
สืบเนื่องจากตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ลพบุรี และ สภ.เมืองลพบุรี ได้สืบสวนทราบว่ามีกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ร่วมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด โดยทำกันเป็นลักษณะเครือข่ายรายใหญ่ใช้ชื่อว่า “สายเบิร์นเต็มระบบ”โดยจะลักลอบขนยาเสพติดและจะนำยาเสพติดมาพักไว้ที่บ้านเช่าหลังดังกล่าว จึงนำกำลังไปจับกุม จากการตรวจค้นพบผู้ต้องทั้งสี่รายอยู่ในบ้านดังกล่าว ส่วนยาเสพติดได้นำไปซุกซ่อนในรถยนต์เพื่อเตรียมส่งให้ลูกค้าในพื้นที่และตามคำสั่ง
ทั้งนี้จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากเอเย่นต์รายใหญ่ให้นำยาเสพติดจากพื้นที่ภาคอีสานมาพักที่บ้านดังกล่าว เพื่อนำมาส่งให้กับผู้ค้าอีกทอดหนึ่ง โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 200,000 บาท ซึ่งทำมาครั้งนี้เป็นครั้งที่สองตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบการบรรจุยา เสพติดของเครือข่ายนี้พบว่ามีการปั๊มตราตองเก้า ซึ่งคล้ายคลึงกับก่อนหน้านี้ที่ทางตำรวจภูธรเมืองลพบุรีสามารถตรวจยึดได้ 1,000,000 เม็ด แต่เป็นคนละเครือข่าย นอกจากนี้ยังพบว่า นายภูมิเมนทร์ หรือหยก เณรแตง ยังมีหมายจับของทาง บช.ปส.ในข้อหาสมคบคดียาเสพติดด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ยาบ้าและยาไอซ์ เพื่อการค้าซึ่งเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวและของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี และยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดจำนวน 2,560,000 บาท และจะขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องต่อไป
