เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 เวลา 17:30 น. ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย และกำชับการปฏิบัติตามมาตรการเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน ห้วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2565 ขึ้น ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ โดยได้รับเกียรติจาก พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ. 5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย. ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, ผู้แทนมณฑลทหารบกที่ 33, นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5, นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่,นางกัญญ์ชลา สุขิตรกูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่พร้อมด้วยส่วนราชการ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่าย ในจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมพิธี ได้แก่ กองบังคับการกองบิน 2, ปกครองจังหวัดเชียงใหม่, องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่, เทศบาลนครเชียงใหม่, ปกครองอำเภอเมืองเชียงใหม่, ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่, ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่, สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่, กู้ภัยรวมใจ, รพ.ดารารัศมี, บก.ตชด.ภ.3, บก.ตม.5, บก.สส.ภ.5, กก.4 บก.ทท., กก.5 บก.ทล., พฐ.จว.เชียงใหม่, สว.ส.รฟ.กก.2 บก.รฟ., ด่าน ตม.ทอ.เชียงใหม่ บก.ตม.2
พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า โดยเทศกาลปีใหม่ 2565 เป็น ที่ใกล้จะถึงนี้ จะมีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อเยี่ยมเยียนบิดามารดาญาติพี่น้องและพบปะสังสรรค์ร่วมกับครอบครัว ตลอดจนการเดินทางไปพักผ่อนและท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มักเกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนปัญหาอุบัติเหตุด้านการจราจรและก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นได้ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งเข้มงวดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในช่วงวันหยุดยาวนี้จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและภาคีเครือข่ายที่จะต้องร่วมมือกันในปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความเสียสละเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินรวมทั้งอำนวยความสะดวกในด้านการจราจรและเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายด้วยความปลอดภัยบนท้องถนนให้ได้มากที่สุด ตามโครงการ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ด้วยความห่วงใยในสวัสดิภาพของประชาชน ซึ่งจะเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในเทศกาลแห่งความสุขห้วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2565 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภทเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ รวมถึงกำชับการปฏิบัติตามมาตรการ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน ห้วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2565 เพื่อเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และภยันตรายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึง การอำนวยความสะดวกด้านการจราจรขณะที่ประชาชนเดินทางท่องเที่ยว ร่วมกิจกรรมรื่นเริงในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างมีความสุข โดยมีเป้าหมายลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุทางถนน จำนวนผู้เสียชีวิตและจำนวนผู้บาดเจ็บ (Admit) โดยเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 และลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุทางถนน จำนวนผู้เสียชีวิตและจำนวนผู้บาดเจ็บ (Admit) เทียบกับสถิติในช่วงเทศกาล ปีใหม่เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี โดยนำมาตรการ 10 ข้อหาหลัก หรือมาตรการรักษาวินัยจราจร (10 รสขม) มาใช้อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนน มักมีสถิติเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญในห้วงเทศกาลท่องเที่ยวสำคัญนี้
สำหรับการระดมกวาดล้างอาชญากรรมดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล จะดำเนินการอย่างครอบคลุม ทุกเป้าหมาย รวมทั้ง ยาเสพติด อาวุธปืน อาวุธสงครามและวัตถุระเบิด คดีค้างเก่าตามหมายจับป้องกันปราบปราม คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์สินที่อาจเกิดขึ้นบริเวณ ขนส่ง สถานที่พักผู้โดยสาร แหล่งท่องเที่ยว หรือสถานที่มีการจัดงาน หรือจัดกิจกรรมต่างๆ รวมถึง การป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ในพื้นที่จุดเสี่ยงที่มีเหตุ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง การป้องกันเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดตามไปก่อเหตุซ้ำในบริเวณสถานพยาบาล ดังที่เคยมีเหตุปรากฏมาก่อนหน้า รวมทั้ง การตรวจตราสวนสาธารณะ แหล่งมั่วสุม และสถานบริการ
ทางด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจ ในสังกัดดำเนินการประชาสัมพันธ์การบังคับใช้กฎหมายเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมกับขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมในการเดินทาง และร่วมมือกับเจาหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ และความปลอดภัยในภาพรวมแก่สังคมในห้วงเวลาสำคัญ ดังนี้ ขอให้ตรวจสภาพความพร้อมของยานพาหนะก่อนออกเดินทาง และสภาพร่างกายของผู้ขับขี่, ตรวจสอบเส้นทางที่จะใช้เดินทางว่ามีการซ่อมแซมหรือการก่อสร้างทางหรือไม่ รวมถึงระมัดระวัง การจอดรถบริเวณไหล่ทาง เพื่อซื้อสินค้าริมทาง หรือการขับขี่เมื่อผ่านทางร่วม ทางแยก หรือจุดตัดทางรถไฟ, ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถยนต์ต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารเสพติด ก่อนและระหว่างโดยสารบนรถ ต้องรัดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง และไม่ให้ผู้โดยสารนั่งที่กระบะท้ายรถ รวมทั้ง ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ จะต้องสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง ศึกษาและปฏิบัติมาตรการความปลอดภัย 10 ข้อหา (10 รสขม) ได้แก่ 1.ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด, 2.ขับรถย้อนศร,3.ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร, 4.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย, 5.ไม่มีใบขับขี่, 6.แซงในที่คับขัน, 7.เมาสุรา, 8.ไม่สวมหมวกนิรภัย, 9.มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย และ10.ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถโดยได้จัดให้มีการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ จัดชุดสายตรวจจราจร ชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยทางถนนแก่ประชาชนให้บรรลุเป้าหมายให้จงได้ โดยเฉพาะกรณีขับรถในขณะเมาสุรา หรือดื่มสุราบนรถ รวมถึงการใช้กล้องตรวจจับความเร็วและอุปกรณ์ตรวจวัดแอลกอฮอล์
นอกจากนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ขอประชาสัมพันธ์ภัยร้ายรูปแบบใหม่ในยุคชีวิตวิถีใหม่ ได้แก่ ภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่เกิดขึ้นได้ง่ายผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีหลายรูปแบบแยกตามประเภทที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ได้แก่ 1. คดีหลอกลวงทางการเงินและการลงทุน, 2. การหลอกลวงจำหน่ายสินค้า/ขายสินค้าออนไลน์ผิดกฎหมาย, 3. คดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, 4. คดีเกี่ยวกับเพศ สื่อลามก 5. การพนันออนไลน์
ปัญหาของการแพร่ระบาดและติดตามจับกุม เมื่อเกิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีขึ้นมีหลายประการ อาทิ 1) ความยากง่ายในการตรวจสอบว่าอาชญากรรมจะเกิดขึ้น เมื่อใด ที่ใด อย่างไร เพราะเกิดขึ้นผ่านช่องทางการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต ทำให้เกิดความยากลำบากในการป้องกัน, 2) การพิสูจน์การกระทำผิดและการตามรอยของความผิดทำได้ยาก ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งขณะนี้ยังมีจำนวนจำกัด, 3) การสืบหาพยานหลักฐานซึ่งจะมีลักษณะแตกต่างไปจากหลักฐานของคดีอาชญากรรมทั่วไป, 4) ความยากลำบากในการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมเหล่านี้ มักเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งกฎหมายของแต่ละประเทศอาจครอบคลุมไปไม่ถึง และ5) การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นตลอดเวลา ทำให้คนที่รู้ไม่เท่าทันตกเป็นเหยื่อ ด้วยข้อจำกัดของปัญหาดังกล่าว ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จึงใคร่ประชาสัมพันธ์ทราบถึงภัยใกล้ตัว ในชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) เพื่อป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง พร้อมกันนี้ ขอเชิญชวนติดตามรับข่าวสารจาก สื่อของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้รู้เท่าทันพฤติการณ์ต่างๆของอาชญากรรมยุคใหม่ เพื่อไม่ต้องเพลี่ยงพล้ำตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพและเสียทรัพย์สินไปโดยการล่อลวง.
