เมื่อเวลา 15.00น.วันที่ 22 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา ได้มีนักธุรกิจค้าเพชร จิวเวลรี่ย่านถ.สุรวงศ์ ชาวปากีสถาน ชื่อ Mr.Ali Saiyed Ashik(อาลี ไซยาด อาชีก) อายุ 34ปี หนุ่มสัญชาติ อินเดีย พร้อมเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ คือ นายแซนดีฟ ซิงท์ (Mr.Sandeep sing) และนายอาคีย์ (Mr.Akee) เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือร้องกับสื่อมวลชน หลังถูกกลุ่มพนักงานร้านอาหาร ชื่อดังแห่งหนึ่่ง ประมาณ 4-5 คน รุมกระทืบ ทำร้ายร่างกาย ขณะเดินผ่านหน้าร้าน ทำให้ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายและ ดวงตาเขียว คิ้วขวาแตกเลือดอาบไหลนองตามตัวเย็บถึง13เข็ม เมื่อช่วงเวลา 21.00น.วันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา
นายอาลีฯ เปิดเผยให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่าเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 64 เวลาประมาณ 00.35 น. ตนได้เดินทางไปที่สุขุมวิท ซอย 4 และได้พบเจอกับเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดหนึ่ง โดยบังเอิญและได้ทักทายกันตามประสาเพื่อนฝูง ต่อมาเช้าวันที่ 29 พ.ย.64 ตนได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่ตนรู้จักและเคยรู้จักกันมาก่อนกับทางคู่กรณี เจ้าของร้านแห่งหนึ่งที่สุขุมวิท ซอย 4 โดยโทรมาต่อว่าตน กล่าวหาว่าตนได้พาตำรวจมาตรวจค้นที่ร้านอาหาร โดยตนได้ตอบกลับเพื่อนที่โทรมาว่า ตนไม่ได้พาตำรวจไปเข้าตรวจค้นแต่อย่างใด ที่เห็นการทักทายตำรวจนั่นเพราะเป็นเพื่อนกันเฉยๆ หลังจากนั้นได้มีโทรศัพท์ โทรเข้ามาต่อว่าและขู่จะทำร้าย อยู่ตลอด ยังกล่าวอีกว่า”อย่าเข้ามาแถวร้านกู จะกระทืบเลย”
โดยต่อมาวันที่ 20 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 21.10 น.ตนและนาย Sandeeb Sing เดินทางโดยใช้รถจักรยานยนต์เพื่อจะไปทานข้าวที่ร้านอาหารอาหรับที่สุขุมวิท ซอย5 ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านคู่กรณี จึงได้นำรถไปจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามแต่ยืนยันว่าไม่ได้ไปจอดขวางหน้าร้านแต่อย่างใด หลังจากนั้นได้มีบุคคลและพนักงานภายในร้านคู่กรณี ประมาณ 4-5 คน เดินเข้ามาพูดกับตนว่า “มองหน้าทำไม” ตนจึงตอบกลับไปว่า “เปล่า ไม่ได้มองหน้าอะไร” หลังจากนั้น กลุ่มคนดังกล่าวก็เข้ามารุมทำร้าย กระทืบตน ทำให้ได้รับบาดเจ็บบอบช้ำตามร่างกายและบริเวณคิ้วขวาแตกเลือดไหลอาบต้องเย็บถึง13เข็ม เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล เสื้อผ้าฉีกขาด ซึ่งตนโดนทำร้ายอยู่คนเดียว ส่วนเพื่อนของตน ไม่ถูกทำร้ายด้วย หลังจากนั้นตนจึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ลุมพินี ทางเจ้าหน้าที่ตร.ให้ตนกลับไปรักษาตัวที่ รพ.ก่อน
นาย อาลี กล่าวต่อว่า ตนไม่ได้ต้องการเงินเยียวยาหรือคำขอโทษแต่อย่างใด แต่ต้องการที่จะดำเนินคดีทางกฏหมาย ให้ถึงที่สุด เพราะตอนนี้ตนรู้สึกกลัวและไม่ปลอดภัยต่อชีวิต เพราะเคยมีการโทรศัพท์เข้ามาจากเจ้าของร้านอาหาร มาข่มขู่ ว่าจะทำร้ายร่างกายตนจนถึงชีวิตเอาไว้ด้วย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ที่ผ่านมา เขาก็ได้บอกกล่าว ว่าจะกระทืบทำร้ายร่างกาย เขาก็ทำจริง ตามที่เข้าเคยขู่เอาไว้ หากเขาบอกว่าจะมายิงตน ตนก็ต้องตายแน่นอน หากตนเป็นอะไรไปก็มาจากเจ้าของร้านอาหารคู่กรณีอย่างแน่นอน
เบื้องต้นได้เข้าแจ้งความเอาไว้แล้ว กับ ร.ต.ท.จตุรวิศศ์ ไตรสูงเนิน รอง สว. (สอบสวน) สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่มารุมทำร้ายตนต่อไป