ตำรวจยันหนุ่มซิ่งเบนซ์ชนเก๋งดับ3ศพ ผลตรวจแอลกอฮอล์เกินกฎหมายกำหนด

วันที่ 18 ธ.ค.64 พ.ต.ท.ประสิทธิ์ วิรัตยาภรณ์ รองผู้กำกับจราจรทางด่วน 2 ในฐานะหัวหน้าสถานีด่านอโศกฯ กล่าวถึงคดีอุบัติเหตุรถเบนซ์ ซีแอลเอส สีขาว ป้ายแดง ทะเบียน ต 5448 กรุงเทพฯ ชนรถเก๋ง ฮอนด้า บริโอ้ ทะเบียน ฆษ 8497 กทม.เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3ราย บนทางด่วนศรีรัช ขั้นที่ 2 ทิศทางมุ่งหน้ามอเตอร์เวย์ ช่วงบริเวณข้ามคลองแสนแสบ เมื่อคืน(17ธ.ค.)ที่ผ่านมาว่า สำหรับคดีผู้เสียชีวิต3ศพ ทาง สน.หัวหมาก จะเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับชันสูตรพลิกศพ ว่าสาเหตุการเสียชีวิตเป็นยังไง โดยต้องรอผลการชันสูตรจากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ จึงยังไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้ ส่วนคดีจราจรเมื่อเกิดอุบัติเหตขึ้น สน.ทางด่วน 2 จะเป็นผู้รับผิดชอบ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ทางด่วน 2 ได้สอบปากคำ นายจินทวัส หรือโบ๊ท (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 33 ปี นักธุรกิจนำเข้าเครื่องสำอางคนขับรถเบนซ์ฯคันเกิดเหตุให้การว่า ได้ใ​ช้ทางด่วนจากฉลองรัชและมาเปลี่ยนเป็นด่วนศรีรัช เพื่อจะกลับบ่านพักย่านศรีนครินทร์ ส่วนรถเก๋งฮอนด้าฯคู่กรณียังไม่ทราบว่าปลายทางจะไปทางไหน แต่มีรายงานว่าจะไปที่จังหวัดชลบุรี

นายจินทวัส ยอมรับด้วยว่า มีการดื่มสุรามาจริงสอดคล้องกับผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายพบเกินกว่ากฎหมายกำหนด ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถให้การได้ทั้งหมด เนื่องจากอยู่ในอาการบาดเจ็บบริเวณลำตัวเพราะได้รับแรงกระแทกจากแอร์แบ๊คภายในรถระเบิดทั้งคัน จึงต้องส่งตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บ ก่อนที่จะเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อเช้านี้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาขับรถขณะมึนเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต โดยไม่คัดค้านการประกันตัว

ทั้งนี้ สน.ทางด่วน 2 จะส่งหลักฐานทั้งหมด อาทิ ร่องรอยการเฉี่ยวชน, กล้องวงจรปิด,ผลตรวจสอบความเร็วรถ ไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องคดี และรอผลชันสูตรพลิกศพจาก สน.หัวหมาก มาประกอบเพื่อสรุปสำนวนให้อัยการต่อไป ยืนยันว่า ตำรวจทางด่วน 2 ได้ปฎิบัติตามขั้นตอนทุกข้อกำหนดอีกทั้งจะไม่มีการช่วยเหลือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในส่วนการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายฝ่ายคู่กรณีต้องดำเนินการเจรจากัน ตำรวจไม่ได้รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว แต่ทราบว่าทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้มีการพูดคุย เพราะยังอยู่ในบรรยากาศของความโศกเศร้า

ด้านนางสุดา ไทยเจริญ อายุ 55 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี มารดาและญาติของ น.ส.อัจฉรา เข็มทอง อายุ 30 ปี ผู้ขับขี่รถเก๋งฮอนด้าที่เสียชีวิต เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทางด่วน 2 เพื่อให้ปากคำตำรวจ กล่าวว่าเพิ่งทราบเรื่องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากตำรวจโทรมาแจ้งว่าลูกสาวเสียชีวิต สำหรับรถเก๋งฮอนด้าคันที่ถูกชน ลูกสาวเพิ่งซื้อได้ 1 ปี ตนกับลูกสาวไม่ได้อยู่ด้วยกัน จึงไม่ทราบรายละเอียดว่าลูกสาวจะเดินทางไปไหน และไม่ทราบว่าในรถมีกี่คน ที่ผ่านมาได้คุยกันทางโทรศัพท์เท่านั้น และได้คอยตักเตือนให้ระวังความปลอดภัยเรื่องการขับรถ รวมทั้งเรื่องดูแลครอบครัว เพราะลูกสาวมีลูก 3 คนวัย 3-5 ขวบ

นางสุดา กล่าวว่า การสูญเสียครั้งนี้ ทำให้ครอบครัวรู้สึกช็อค และหลังเกิดเหตุยังไม่มีการพูดคุยกับคู่กรณี และคู่กรณียังไม่มีการติดต่อมา แต่เมื่อเรื่องราวทางคดีเสร็จสิ้น ตนก็อยากจะพูดคุยกับคู่กรณีถึงสาเหตุและเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนตอนนี้ จะประสานกับสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อนำร่างลูกสาวไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า