เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.ดอนเมือง โดย พ.ต.ท.มหพล มีเสน รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง พร้อมด้วย พ.ต.ต.วุฒิชัย บุญยู้ พ.ต.ต.ภาคิน ดอกไม้ สว.สส.สน.ดอนเมือง และฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสิทธิศักดิ์ หรือ ยุทธ ลักขษร อายุ 25 ปี พร้อมของกลาง มีดปังตอ 1 เล่ม ภายหลังก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ที่จอดริมถนนในหมู่บ้านบูรพา 18 ซอยวัดเวฬุวนาราม 19 แขวงและเขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เสียหายนับ 10 คัน เหตุเกิดเวลา ประมาณ 23.50 น. ของวันที่ 13 ธ.ค. โดยจับกุมได้บริเวณเพิงพักไม่มีเลขที่ท้ายซอยวัดเวฬุวนาราม 15/1 แขวงและเขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เวลาประมาณ 09.00 น. ( 14 ธ.ค. ) ที่ผ่านมา
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม เวลาประมาณ 23.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งเหตุมีชาย กำลังทุบทำลายกระจกรถยนต์ ที่จอดในหมู่บ้านบูรพา 18 ซอยวัดเวฬุวนาราม 19 เสียหายหลายคัน หลังรับแจ้งได้เดินทางตรวจสอบพบว่ามีรถยนต์นับ 10 คัน ถูกทุบทำลายกระจกแตกเสียหาย จึงได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาพยานหลักฐานต่างๆ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงดังกล่าวโดยรอบ เพื่อเร่งรัดและติดตามจับกุมคนร้าย
จนกระทั่งพบกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายเป็นชายไทย อายุประมาณ 25 ปี รูปร่างสันทัด สูงประมาณ 170 เซ็นติเมตร ผิวดำแดง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเข้ม สวมกางเกงขาสั้น หลังจากก่อเหตุได้เดินหลบหนีออกมาทางปากซอย เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนชุดจับกุม จึงได้สืบสวน จนทราบว่าชายคนดังกล่าวเป็นคนเดียวกันที่เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อ 16 และ 19 กันยายน 2564 เหตุเกิดที่ห้าง C.J. ตรงข้ามหมู่บ้านบูรพา 18 ใกล้กับเหตุครั้งนี้
ต่อมาเวลาประมาณ 08.30 น. ( วันที่ 14 ธ.ค. ) เจ้าหน้าที่ทราบว่าชายคนที่ก่อเหตุคนดังกล่าว หลบหนีมาอาศัยที่ห้องเช่าที่ท้ายซอยวัดเวฬุวนาราม 15/1 จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ พบชายรูปพรรณตรงตามกล้องวงจรปิด ทราบชื่อนายสิทธิศักดิ์ หรือ ยุทธ ลักขษร นั่งอยู่ที่เพิงพักไม่มีเลขที่ท้ายซอย จากการสอบถาม นายสิทธิศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุทุบ รถยนต์ ที่จอดอยู่ในหมู่บ้านบูรพา 18 โดยใช้มีดปังตอ และขวดเบียร์ ขาร่ม ก้อนหิน หรืออะไรที่พอจะหยิบได้ในตอนนั้น ในการก่อเหตุ ส่วนสาเหตุเกิดจากความเครียดตกงานไม่มีงานทำ ประกอบกับวันเกิดเหตุมีปากเสียงกับพี่ชายแต่ทำอะไรไม่ได้ เกิดอารมณ์ค้าง เมื่อเดินออกมาจากบ้านจึงลงมือก่อเหตุ เพื่อระบายอารมณ์ ยอมรับว่าเคยเสพ แต่วันนั้นไม่ได้เสพ และไม่ได้มีอาการมึนเมาใดๆทั้งนั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะทุบเพื่อเอาทรัพย์สิน แต่เพื่อระบายอารมณ์ และจำไม่ได้ว่าได้ทุบไปกี่คัน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบรถที่ได้รับความเสียหายบางส่วนยังจอดที่เดิม และยับพบเศษกระจกเกลื่อนถนน พบนายสมชาย กลิ่นประทุม อายุ 60 ปี หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า ปกติก็จอดรถเป็นประจำ โดยเมื่อคืนช่วง 5 ทุ่ม ได้ยินเสียตุ๊บๆ เมื่อออกมาดูเห็นคนก่อเหตุวิ่งออกไปทางปากซอย ซึ่งผู้ก่อเหตุได้ทุบกระจกรถมาตั้งแต่ซอย 10 จนถึงซอย 4 รวม 10 คัน แท็กซี่ 4 กระบะ 2 เก๋ง 4 ในส่วนรถของตนกระจกหลังรถแตก แต่ไม่มีทรัพย์สินหาย โดยก่อนหน้าทราบว่าผู้ก่อเหตุยังเคยทุบกระจกร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยมาแล้ว 1 ครั้ง ทุบรถซอย 2 อีก 1 ครั้ง ส่วนตัวไม่รู้จักผู้ก่อเหตุ
ด้านน.ส.ราตรี พลคำแก้ว อายุ 58 ปี เจ้าของรถแท็กซี่ที่ถูกทุบกระจกรวม 3 คัน เล่าว่า แท็กซี่ของตนที่จอดอยู่ได้รับความเสียหายทั้งหมดสามคันถูกฟันบริเวณประตู และกระจกแตก เสียหายทั้งหมด และเพิ่งจะไปเปลี่ยนกระจกมาใหม่ รวม 7500 บาท ตอนนี้เกรงว่าจะกลับมาก่อเหตุอีก อยากให้พาไปรักษา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมืองดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
