เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.64 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เปิดตัวผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก. ทั้ง 50 เขต
โดยนายเฉลิมชัย มั่นใจว่า นายสุชัชวีร์ และผู้สมัคร ส.ก.ของพรรค จะเป็นผู้ว่าฯ ที่ดีที่สุด และมั่นใจว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะได้กลับมาอยู่ในใจชาวกรุงเทพฯ เพราะยังเชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยังเป็นความหวังของประชาชนตลอดมา จึงขอโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์ กลับมาดูแลกรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขต พร้อมมั่นใจในศักยภาพของนายสุชัชวีร์ ที่จะพาประเทศไทยไปสู่อนาคต นายเฉลิมชัย ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อ 9 ปี ที่ผ่านมาที่ พรรคเคยส่งหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ตรงกับช่วงเวลาที่ตนเป็นเลชาธิการพรรคเช่นเดียวกัน และเมื่อได้กลับมาเป็นเลขาธิการพรรค และดูแลการเลือกตั้ง กทม. อีกครั้ง
ขณะที่ นายสุชัชวีร์ เปิดเผยว่า พร้อมลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชน ทั้ง 1,600,000 ตารางกิโลเมตรทั้งกรุงเทพมหานคร โดยจะเริ่มต้นที่ฝั่งธนบุรีก่อน ในเขตบางขุนเทียน บางบอน และบางแค เพื่อไปดูปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะพื้นที่ โดยหลังจากนี้ จะทยอยเปิดนโยบายพัฒนากรุงเทพฯ ให้ชาว กทม. ได้รับทราบต่อไป หลังจากเมื่อวานนี้ (13 ธ.ค.) ได้ส่งสัญญาณ เปิดตัวเสร็จสิ้นแล้ว โดยมั่นใจว่า จะสามารถเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ ได้ และไม่ได้กังวลต่อฐานเสียงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หลังการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา พรรคฯ จะไม่ได้รับการเลือกตั้ง เพราะเชื่อว่า ทุกอย่างมีขึ้นมีลง เหมือนในต่างประเทศ แต่การที่ตน และทีม ส.ก. ได้ส่งสัญญาณไป และจากการเปลี่ยนแปลงในพรรคฯ จะทำให้ชาวกรุงเทพฯ กลับมาให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป
ส่วนทีมงานรองผู้ว่าฯ นั้น นายสุชัชวีร์ ยังไม่ขอเปิดเผย เนื่องจาก ยังคงมีเวลาพิจารณาอยู่ แต่คุณสมบัติผู้ที่จะมาทำงานด้วยนั้น จะต้องมีภาพของนักสู้ นักเปลี่ยนแปลง และมีความรู้กับภารกิจ ที่เข้ามารับผิดชอบจริง พร้อมย้ำว่า ตนให้ความสำคัญกับคนทุกกลุ่ม นายสุชัชวีร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณการเลือกตั้งในช่วงกลางปี 2565 ว่า เป็นช่วงเวลาที่ดี และเชื่อว่า จะสามารถลงพื้นที่ได้ทั่วถึง
สำหรับรายชื่อผู้สมัครอื่น ๆ ที่ปรากฏออกมา ทั้งนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร หรื่อผู้ว่าฯ หมูป่า และนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้สมัครในนามอิสระ มีความกังวลหรือไม่นั้น นายสุชัชวีร์ ย้ำว่า ที่ผ่านมาเป็น 30 ปีที่ตนสั่งสมประสบการณ์ทุกด้าน ซี่งผู้ว่า กทม. ต้องมีความเป็นนายช่างใหญ่ และพ่อบ้านในคนเดียวกัน เพราะงานผู้ว่า กทม. เป็นงานหลายมิติ และต้องมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ อย่างลึกซึ่ง ซึ่งตนผ่านมาทั้งหมดแล้ว ทั้งการศึกษา การแพทย์ สังคม ศิลปะ การกีฬา จึงมีความเชื่อมั่นว่า หากประชาชน รู้จักตน จะให้โอกาสในการได้ทำหน้าที่ผู้ว่า กทม.
