กลุ่มนักธุรกิจ และผู้ประกอบการ ชาวด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ได้รับความเดือดร้อนกันอย่างหนัก จากผลกระทบของโรคโควิด- 19 ระบาด เกือบทุกกิจการต้องปิดตัว ลงหลังจากประเทศไทย-มาเลเซีย ประกาศปิดพรมแดน ห้ามนักท่องเที่ยวและประชาชนเดินทางเข้า-ออกประเทศ ส่งผลเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้ กลายเป็นเมืองร้าง
แต่หลังจากที่ด่านพรมแดนฯเริ่มเปิดให้มีการเข้า-ออก ได้อีกครั้ง ในรอบกว่า 2 ปี แสงสี ของเมืองเริ่มกลับมาอีกครั้ง เจ้าของธุรกิจ ต่างๆเช่นโรงแรม คาราโอเกะ นวดแผนโบราณ ต่างควักทุนที่แทบไม่มีเหลือ ตบแต่งร้าน รอคอยนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ ทั้งๆที่ไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ ว่าเมืองจะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม มากน้อยแค่ไหน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่นักธุรกิจต่างพอที่จะเข้าใจ และรับสภาพได้ แต่มีสิ่งที่น่ากลัวมากกว่า ที่นักธุรกิจ และผู้ประกอบการบอกว่า นั่นคือเริ่มมีกลุ่มคน ไม่ยืนยันว่ามาจากหน่วยงานไหน มาสำรวจว่าร้านคาราโอเกะ ร้านนวด ตรงไหน เปิดให้บริการแล้วบ้าง ทั้งนี้จะมาให้ดูแลบ้างโดยการเก็บ “ส่วย” หรือคนในพื้นที่เรียกกันติดปากว่า “ค่ารายการ”
ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 65 ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 19.00 น. นายกชาย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลาลงพื้นที่ พร้อมด้วย “น้ำหอม” น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ส.ส. “สจ.เสือ” วงศ์วชิระ ขาวทองและคณะทำงาน รับหนังสือร้องเรียน ความเดือดร้อนลงลายมือชื่อ จำนวน 29 ราย จากนักธุรกิจผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ ในนาม“สมาคมนักธุรกิจรักษ์ด่านนอก” กรณีมีชายลักษณะคล้ายเจ้าหน้าที่ ประมาณ 20 คน ไม่ทราบสังกัด พูดจาข่มขู่ ขอเก็บรายการทุกร้าน อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
โดย “นายกชาย” ได้ให้คำมั่นกับผู้ประกอบการว่า จะสั่งการให้คณะทำงาน เร่งติดตาม ประสาน ทำหนังสือส่งถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา และผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อแก้ปัญหาในเรื่องนี้โดยเร่งด่วน ถ้าราชการมาเอาเปรียบผู้ประกอบการ มารีดไถ มาเก็บส่วย ซึ่งพี่น้องไม่ทันได้ลุกขึ้นเลยก็จะมารีดไถ เอาเงินแล้ว อันนี้ไม่เหมาะ ไม่ได้เลย หรือต่อไปถ้าเป็นแบบนี้ นักท่องเที่ยวก็ต้องโดนจากราชการ เดี่ยวหนังสือนี้ ผมจะทำหนังสือถึง ผบ.ตร.ว่าช่วยเข้มงวดกวดขัน เพราะคนด่านนอกจะตายอยู่แล้ว สองปีที่ผ่านมาที่ตายก็มี ที่รอดก็ใกล้ตาย เพราะฉะนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเราต้องช่วยกัน ผมจะทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้เข้มงวดฝ่ายปกครองด้วย ให้เพวกเราลืมตาอ้าปากได้ก่อนเถิด ให้เมืองนี้มันเดินไปได้ก่อน
วันนี้เราถ่ายคลิปได้สะดวกเลย วางแผนล่อซื้อถ่ายคลิป ส่งมาให้ผม แล้วผมส่งไปให้นายกรัฐมนตรีแน่นอน ถ้าพี่น้องกล้วแล้วพี่น้องจะแพ้ ถ้าสู้แล้วจะชนะแน่นอน ผมรับปากแล้วว่าเมื่อมีโอกาสจะมาช่วยเมืองนี้ เมืองนี้ต้องเจริญแน่นอน” นายกชายบอก
สำหรับเมืองด่านนอก ในอดีตช่วงที่สถานการณ์ปกติ หรือก่อนโควิดฯระบาด เป็นที่ทราบกันดีว่า เป็นแหล่งเก็บรายการ หรือเก็บส่วย จากหน่วยต่างๆ นับหลายสิบหน่วย แต่ผู้ประกอบการไม่มีใครกล้าโวยวาย แต่สำหรับครั้งนี้ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หากมีการเก็บอีก ไม่ใช่ไม่จ่าย ขอเพียงแต่ให้เดินได้ก่อน ให้รอดก่อน ประมาณ 4-5 เดือน หรือเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น แล้วค่อยมาคุยกันอีกที
ภาพ/ข่าว อนุกูล บุญมี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สงขลา