ชาวบ้านเอือม หนุ่มคลั่งไล่ด่าทุบตี ทำร้าย อยู่อย่างหวาดผวา

ชาวบ้านเอือม หนุ่มคลั่งไล่ด่าทุบตี ทำร้าย อยู่อย่างหวาดผวา วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ

วันที่ 16 พ.ค.65 จากกรณีที่ผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ จิรภา ราศี ได้โพสต์ข้อความในกลุ่ม ที่นี่…แก่งคอย โดยมีข้อความว่า สวัสดีค่ะวันนี้จะมาแชร์สิ่งที่เจอและขอคำแนะนำจากผู้ที่รู้คนที่เห็นในภาพกล้องวงจรปิดคนนี้คือเพื่อนบ้านติดกัน เขาถือได้ว่าเป็นบุคคลอันตราย !!ของคนแถวนี้ก่อนหน้านี้บุคคลในภาพคือ ชื่อนายตั้มได้มีการทำลายข้าวของคือทุบรั้วบ้านเราจนเกิดความเสียหาย ได้มีการจุดเผาขวดน้ำมันและโยนเข้ามาที่บ้านเรา ได้มีการโยนถ้วยชามก้อนหินเข้ามาที่บ้านเรา เราไม่เคยรู้จักหรือเป็นญาติกันมาก่อน ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเพื่อนบ้านที่ไปล้ำเส้นกันเลยเราได้มีการแจ้งความไปหลายครั้งมากๆและทุกครั้งตำรวจก็ดำเนินคดีให้ลงบันทึกประจำวันจนเรื่องถึงขั้นฟ้องศาลโดยระหว่างนี้เขาก็ได้ออกมาใช้ชีวิตปกติ และ ได้กลับมาสร้างความเดือดร้อนให้บ้านเราอีกหลายต่อหลายครั้ง บ้านเรามีคนแก่มีเด็กที่ตกอยู่ในความไม่ปลอดภัย ทุกคนที่บ้านเขาแจ้งว่าเขาเป็นคนสติไม่ดี แต่ในความสติไม่ดีเขาสามารถทำลายข้าวของหรือทำลายชีวิตคนอื่นได้เลยหรอคะเขาควรได้รับการดูแลแต่ไม่สามารถมีใครพาเขาไปรักษาได้ เขาถูกแจ้งความจับไปหลายครั้งก็ได้ถูกปล่อยตัวออกมาและก็ทำแบบเดิม นี่ไม่ใช่แค่กับบ้านเราค่ะ เกือบทุกบ้านในซอย ก็เจอพฤติกรรมแบบเดียวกันเลยคะ หนูไม่รู้ต้องแจ้งหรือร้องหน่วยงานไหน มีตำรวจเข้ามาคุยหลายรอบค่ะแต่ปัญหาที่มันเกิดขึ้นมันไม่ได้ถูกแก้ที่ต้นเหตุจริงๆ ในแต่ละวันที่บ้านเราเจอ มันอันตรายกับบ้านเรามากค่ะ บ้านเราพยายามสร้างรั้วให้สูงจากเดิมเพื่อไม่ให้เขาโยนก้อนหินหรือสิ่งไม่ดีเข้ามาที่บ้านได้แต่เขาก็ยังกระทำ

จนวันนี้เขาได้มีการเดินมาถามหาคนในบ้านแล้วเขาก็โวยวายขึ้นแล้วก็หยิบก้อนหินทุบรถของคนในบ้านที่จอดอยู่หน้าบ้านของเราเอง ได้เกิดความเสียหาย แต่ในตรงนี้ต้องแจ้งความแต่แจ้งความแล้วบุคคลนี้ก็ไม่ได้สามารถที่จะจ่ายค่าปรับในส่วนที่ของเราเสียหายได้แน่นอน ก็จะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เขาจะทำต่อไปก็เป็นขั้นตอนที่ต้องส่งฟ้องศาลอีกเหมือนเดิม และตัวเขาก็ยังคงได้ออกมาทำกับเราตลอดและมีความอันตรายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนไม่รู้ว่าจะถึงชีวิตเลยไหม เราต้องใช้ชีวิตที่ไม่ปกติเพราะมีคนไม่ปกติอยู่ข้างบ้านและคนในครอบครัวเขาได้ถูกทำร้ายร่างกายอยู่ตลอดเวลา พ่อแม่ อยากให้คนแบบนี้ไปรักษาตัวและไม่มาสร้างความเดือดร้อนคนอื่นจนกว่าเขาจะเป็นปกติ ผลลงโทษของกฎหมายก็อยู่ในส่วนของกฎหมายซึ่งต้องใช้เวลาแต่ความปลอดภัยของคนในครอบครัวเราตอนนี้แทบไม่มีเลยบางครั้งกลางคืนก็จุดไฟเผา เราต้องอยู่กันด้วยความหวาดกลัว บ้านเราปลูกมาเกือบ 20 ปี เขาเพิ่งย้ายมาเป็นเพื่อนบ้านได้ 3-4 ปี เราจะต้องย้ายบ้านหนีหรอคะอยากขอความช่วยเหลือหน่วยงานไหนก็ได้ ยังมีอีกหลายคนที่อยู่ในหมู่บ้านในซอยเดียวกันที่เจอบุคคลนี้ทำลายข้าวของทรัพย์สินที่บ้าน ทุกคนทำได้แค่แจ้งความและบุคคลนี้ก็ยังลอยนวลใช้ชีวิตสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอยู่ทุกวันช่วยด้นเรื่องนี้ให้มีคนเข้ามาดูแลทีค่ะเราไม่สามารถอยู่บ้านตัวเองแบบมีความสุขได้เลยเหตุเกิด บ้านโคกเชือก ตาลเดี่ยว แก่งคอยคะ

วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นซอยเข้าไปใน บ้านโคกเชือกใต้ โดยภายในซอยแบ่งออกไป 2 หมู่บ้าน โดยฝั่งซ้ายมือจะเป็น หมู่ที่ 11 ต.ตาลเดี่ยว และฝั่งขวามือ เป็นหมู่ที่ 8 ต.โคกสะอาด อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.จิรภา ราศี อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 50/5 ม.11 ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ผู้โพสต์ข้อความลงในเพลท ที่นี่…แก่งคอย โดย น.ส.จิรภา เล่าว่า ทุกวันนี้อยู่บ้านด้วยความหวาดผวา เนื่องจากว่า บ้านของตนนั้นปลูกติดอยู่กับบ้าน ของนาย ตั้ม (ขอสงวนชื่อ แลนามสกุล) อายุ 37 ปี โดยนาย ตั้ม จะมีพฤติกรรม หาเรื่องทะเลาะ กับชาวบ้านในละแวกหมู่บ้านไปทั่วไม่จะเป็นบ้านที่อยู่ติดกัน หรือคนในซอยเดียวกัน ซึ่งบ้านของตนนั้นเป็นบ้านที่มีรั้วเดียวกันกับบ้านของ นาย ตั้ม โดยนาย ตั้ม จะหาเรื่องกับคนในบ้านของตนตลอด โดยการขว้าง ขวดที่ใส่น้ำมันจุดไฟ แล้ว ขว้างเข้ามาในบ้าน ขว้างสิ่งของเข้ามาในบ้านบ้าง บางครั้งก็มาตะโกนด่าอยู่หน้าบ้าน ด้วยคำหยาบคายต่างๆ นาๆ จนทำให้ตนต้องนำปูนมาปิดช่องระบายลมของรั้วบ้าน ก็ยังไม่วายถูกนาย ตั้ม หาเรื่องด่าทออยู่อีก จากนั้นตนได้ก่อกำแพงให้สูงขึ้นกว่าเดิมอีก ซึ่งเดิมกำแพงมีความสูงอยู่ 180 เซนติเมตร ก่อสูงเพิ่มขึ้นอีก 60 เซนติเมตร เพื่อกันไม่ให้ นายตั้ม ขว้างปาสิ่งของเข้าในบ้านได้ แต่ก็ยังถูกทุบกำแพงเป็นรูโหว่ ต้องนำปูนมาโบกทับอีก ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณที่ตนเองนั่งทานข้าวอยู่ภายในบ้าน ได้ยินเสียง นายตั้ม ทะเลาะกับแม่ของตนเอง แลได้ทำร้ายร่างกายแม่ ของนายตั้ม จนได้รับบาดเจ็บ จากนั้น ได้ออกจากบ้านมา และเรียก พ่อของตนให้ออกมา พร้อมกับกล่าวด่าทอพ่อของตน จนทำให้มีปากเสียง ทะเลาะกัน โดยนายตั้ม ได้ใช้ก้อนหินทุบไปที่ ฝากระโปรงรถของตนที่จอดอยู่หน้าบ้าน จนทำให้ฝากระโปรงยุบ ได้รับความเสียหาย จากนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์พุ่งชน พ่อของตนได้รับบาดเจ็บสาหัส ประตูรั้วเหล็กล้ม ซึ่งตนก็ได้แจ้งความไว้แล้ว ที่ สภ.แก่งคอย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นาย ตั้มไว้ที่ สภ. น.ส.จิรภา ได้กล่าวเสริมว่า ทุกวันนี้อยู่ด้วยความหวาดผวา นอนไม่หลับ เกรงว่า นายตั้ม จะมาก่อเหตุจุดไฟเผาบ้าน เนื่องจากว่านายตั้มได้เคยพูดเอาไว้ ซึ่ง นาย ตั้ม ผู้ก่อเหตุได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปบ่อยมาก แล้วก็ปล่อยออกมา และก็มาก่อเหตุอีกซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุได จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบให้ด้วย ซึ่งถ้าหากนาย ตั้ม มีอาการป่วยทางสมอง หรือเสพยาเสพติด ทางญาติก็ควรที่จะนำไปรักษาตัวซะ ไม่ใช่ปล่อยให้อยู่อย่างนี้ มาสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของนายตั้ม เพื่อที่จะสอบถามถึงสาเหตุการทะเลาะวิวาท ไม่พบใครมีเพียงพ่อของ นายตั้ม นอนอยู่ แต่ไม่สามารถเปิดประตูให้เข้าไปได้เนื่องจากว่าพ่อของนาย ตั้ม ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ บอกแต่เพียงว่านายต้ม ไม่อยู่ ถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวไป ข้อหายาเสพติด ซึ่งตนก็ไม่เคยเห็นว่าลูกของตนเสพยาเสพติด แต่จะไปเสพนอกบ้านหรือเปล่านั้นตนเองไม่รู้

ทางด้าน น.ส.สร้อยสุดา วิลัยวรรณ อายุ 33 ปี เจ้าของร้านค้า ที่อยู่ภายในซอย เล่าว่า ส่วนใหญ่ นายตั้ม ที่ผ่านมาแถวนี้ ก็จมาโวยวาย ให้ของลับบ้าง อยู่เป็นประจำ ขับรถผ่านก็จะให้ของลับ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้ ซึ่งคนเราเมื่ออยู่กันดีๆ จะมาด่ากันทำไม ซึ่งมาอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะที่กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ กับตาที่บ้าน อยู่ดีๆก็เรียกตาออกไป แล้วก็ต่อยตาของตน จากนั้นก็ทะเลาะกัน แล้วนาย ตั้มก็หนีเข้าบ้านไป ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเขาเสพยาหรือเปล่า ซึ่งคนดีๆ แล้วอยู่ดีๆก็ขี่รถผ่านมาก็มาด่าเรา ซึ่งเราก็ขายของ ของเราอยู่ หาว่าเราไปยุ่งเรื่องของเขา ซึ่งตนจึงได้ทำรัวๆบ้านปิดไว้หมดเพื่อที่จะกันเอาไว้ ซึ่งนายต้ม ก็ยังจะขู่อีกว่าจะวางเพลิงอีก ซึ่งเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมาตนเองเห็นว่า ได้ยินเสียงโวยวายเสียงดัง มีคนขับรถล้ม ซึ่งตนก็อยู่ไกลก็เลยไม่รู้ว่ามีอะไร ซึ่งเป็นปกติที่เมื่อขับรถผ่านจะโวยวาย และด่าทอให้ของลับ กับคนในซอยอยู่ตลอด ซึ่งส่วนใหญ่จะมีเรื่องกับบ้านข้างๆ ซึ่งตำรวจก็ควบคุมตัวไป ประมาณ 1 เดือนก็ปล่อยตัวออกมาอีกเหมือนเดิม ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วอยากให้นำตัวนาย ตั้ม บำบัด ซึ่งถ้าหากป่วยก็ควรจะนำตัวไปรักษาเขาจะได้หายปกติ เพื่อที่จะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ โดยส่วนตัวแล้วก็ไม่เคยยุ่งกับครอบครัวเขา ซึ่งเมื่อเวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวลูกชายเขา พ่อ แม่เขาก็จะบอกว่าลูกเขาไม่เป็นอะไร ซึ่งเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกัน ซึ่งส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในซอยนี้ก็เป็นญาติกันทั้งนั้น มีแต่ทางครอบครัวนาย ตั้ม ที่เพิ่งเข้ามาอยู่และมาสร้างความเดือดร้อนให้ ทำให้เรานอนผวา และหวาดละแวง ไม่รู้จะมาก่อเหตุอะไรขึ้นอีก

ทางด้าน ร.ต.อ.สุทัศน์ สุขเลิศ ร้อยเวร สภ.แก่งคอย เผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายตั้ม ไว้ที่ สภ.แก่งคอย จากการตรวจสารเสพติดในร่างกายนั้นไม่พบว่ามีสารเสพติด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะนำตัว นาย ตั้ม ไปตรวจอาการทางสมองที่ โรงพยาบาลแก่งคอย ว่ามีอาการทางสมองหรือไม่ และถ้าหากตรวจพบว่ามีอาการทางสมอง ก็จะให้ทาง รพ. ออกใบรับรองให้เพื่อที่จะได้นำตัวส่งไปรักษา รพ.ศรีธัญญา หรือ รพ.ธัญญารักษ์ ต่อไป ส่วนทางด้านคดี ถ้าพบว่ามีอาการทางสมองก็จะต้องรักษาตัวก่อน แล้วถึงจะนำตัวมาดำเนินคดี แต่ถ้าหากตรวจไม่พบว่ามีอาการทางสมองก็จะดำเนินคดีทางด้านกฎหมายต่อไป

ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ จังหวัดสระบุรี


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า