ชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน จ.ศรีสะเกษ อาวุธครบมือเรียกตรวจค้นรถชาวบ้านผิดคัน จนตื่นตกใจกลัว ส่งเรื่องร้องเรียนสื่อมวลชน รอง ผบก.หัวหน้าชุดออกมาขอโทษผู้เสียหาย
เมื่อ วันที่ 28 ก.พ. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจแจ้งข่าวศรีสะเกษ ได้เผยแพร่คลิปการเข้าตรวจค้น ของเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับฝ่ายปกครองมีทั้งในแต่งเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบเข้าสกัดจับตรวจค้น โดยเจ้าหน้าที่ทุกคนมีอาวุธครบมือ ทั้งปืนสั้น และปืนยาว ที่เป็นอาวุธสงครามกรูเข้าล้อมรถ น.ส.เอ และ นาย โจ้ (นามสมมติ) สองสามีภรรยา เจ้าของคลิป เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.คืนที่ผ่านมา (27 ก.พ. 65) คลิปยาว 1 นาที 40 วินาที โดยเพจอ้างว่าได้รับการร้องเรียน จากผู้ใช้เฟสบุ๊ค รายหนึ่ง เป็นผู้ประสบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์เกิดขึ้นที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูล สี่แยก อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจค้นอยู่ เจ้าของคลิปเปิดเผยว่า ตนได้เดินทางกลับจากตัวเมืองศรีสะเกษ พร้อมกับแฟนหนุ่ม เพื่อเดินทางกลับบ้านที่ อ.ราษีไศล
ผู้เสียหายเจ้าของคลิป เล่าต่อว่า ขณะเดินทางกลับมาถึง 3 แยกบ้านหัวช้าง อ.อุทุมพรพิสัย ห่างจากที่เกิดเหตุ ประมาณ 10 กม. แฟนหนุ่มซึ่งเป็นคนขับได้สังเกตเห็นรถเก๋งคันหนึ่งแซงรถของตนมาด้วยความเร็วสูง ก่อนที่จะลดความเร็วอย่างกะทันหัน เพื่อให้รถตนแซงขึ้นไปดังเดิม แต่เมื่อรถมาถึงสะพานข้ามแม่น้ำมูล ก่อนเข้าตัวอำเภอราษีไศล รถเก๋งคันดังกล่าว ได้ขับจี้เข้ามาปิดท้าย เมื่อขับพ้นสะพานมาแล้วรถตำรวจได้ออกมาปาดหน้าอยู่ในลักษณะขวางเลนไม่ให้รถตนวิ่งต่อไปได้ และมีรถกระบะอีกคันประกบชิดด้านขวา ตนกับแฟนหนุ่มเกิดความตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และได้จอดรถด้วยความมึนงงและหวาดกลัว ตอนนั้น มีเจ้าหน้าที่ทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบหลายคน มีอาวุธปืน ทั้งปืนพกพาสั้น และปืนยาว กรูเข้ามาที่รถของตน เจ้าหน้าที่ได้สั่งให้ดับเครื่องยนต์และให้ลงจากรถ มีท่าทีค่อนข้างดุดันจนตนรู้สึกหวาดกลัว เจ้าหน้าที่ตรวจดูในรถไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จึงมีการพูดคุยกัน ทราบว่ามีการแจ้งข้อมูลที่ผิดพลาด ซึ่งรถเป้าหมายที่จะขนยาเสพติดมาส่งในพื้นที่มีลักษณะคล้ายกัน เจ้าหน้าที่อ้างว่า เป็นความผิดพลาดของสายข่าว
ผู้เสียหายอ้างว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปถูกบันทึกเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากตอนแรกด้วยอาการตกใจจึงยังไม่ได้ถ่ายคลิป เมื่อผ่านความตรึงเครียดไปแล้วจึงตั้งสติได้ และกดบันทึกภาพและเสียง ไว้เป็นหลักฐาน เหตุการณ์เกิดขึ้นสร้างความตกใจเป็นครั้งสำคัญของตัวเอง หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปและรู้ว่าเรียกตรวจรถผิดคันไม่มีคำขอโทษจากเจ้าหน้าที่เลย ซึ่งตนก็ไม่ต้องการให้ขอโทษหรอก แต่อยากให้ เจ้าหน้าที่มีความรัดกุมในการปฏิบัติงานมากกว่านี้ หากจุดปิดล้อมเป็นจุดที่มืดไม่มีแสงสว่าง และไม่ใช่เขตชุมชนเมือง อาจทำให้เกิดการเข้าใจผิด หรือขัดขืนซึ่งอาจเกิดความเสียหาย และอาจเกิดอันตรายกับประชาชนที่บริสุทธิ์ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความเสียหายกับตน และครอบครัว รวมทั้งสร้างความตื่นตกใจให้ตนเป็นอย่างมาก จึงได้ส่งเรื่องร้องเรียนมายังสื่อมวลชน เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐในครั้งนี้ด้วย
เวลา 13.00 น.วันนี้ นายโจ้และ น.ส.เอ ได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายบุญชวัฒน์ ปัญญาแดง ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์ดำรงธรรม ออกมารับฟังเรื่องของสองสามีภรรยา โดยถามถึงวัตถุประสงค์ในการมาศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งสองสามีภรรยาได้เล่าเหตุการณ์ที่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดรถใช้ปืนขู่ จนตกใจกลัว นายบุญชวัฒน์ ทราบว่าเรื่องเกิดจากเจ้าหน้าที่เข้าใจผิด ถามว่าถ้าเจ้าหน้าที่ขอโทษในความผิดพลาดจะพอใจไหม สองสามีบอกว่าไม่ได้ติดใจถือโทษอะไรเพียงแต่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังรอบคอบมากกว่านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์ดำรงธรรมจึงได้พาสองสามีภรรยาเข้าพบ พ.ต.อ.ศุภชัย ศักรินพานิชกุล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด จ.ศรีสะเกษ เพื่อให้อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้
พ.ต.อ.ศุภชัย ศักรินพานิชกุล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นการเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่ ช่วงเวลานั้น ชุดปฏิบัติการตามแผนยุทธการ “238 พิทักษ์นครลำดวน จ.ศรีสะเกษ” กำลังสกัดจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญอยู่ในเส้นทางอุทุมพรพิสัย-ราษีไศล แต่รถของคนร้ายที่ลำเลียงยาเสพติดมาได้ขับหนีหายไปจากเส้นทางที่เจ้าหน้าที่ติดตามอยู่ เป็นจังหวะที่นายโจ้ขับรถกระบะ 4 ประตูสีขาว ผ่านมาในเส้นทางนั้นพอดี เจ้าหน้าที่คิดว่าจะเป็นรถสเก๊าหน้าของรถขนยาเสพติด จึงได้สกัดให้หยุดเพื่อตรวจค้นแต่ก็ผิดคันเป็นรถของผู้บริสุทธิ์ จึงขอโทษในความผิดพลาด ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอโทษที่ทำให้ตกใจกลัว ตนจะได้กำชับเจ้าหน้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชา ต่อไปให้ใช้ความระมัดระวังให้มากกว่านี้.
ณัฐธรชนม์ สิริโชติสกุล / ศรีสะเกษ