เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 27 ม.ค.พ.ต.ต.เธียรภัทร กล้าใจ สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในบ้านเลขที่ 14/67 ถนนเอกชัย ซอย 30 แยก 5 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช รถดับเพลิง สปภ.เขตบางขุนเทียน และ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ปลูกติดกันจำนวนหลายหลัง จากการตรวจสอบบ้านต้นเพลิงเลขที่ 14/67 พบร่องรอยแสงเพลิงไหม้ลุกลามจากชั้นล่างขึ้นไปบนห้องนอนชั้นที่ 2 นอกจากนี้ยังลุกลามไปสร้างความเสียหายบริเวณบ้านข้างเคียงเลขที่ 14/66 อย่างรวดเร็ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นักผจญเพลิงและหน่วยกู้ภัยช่วยกันใช้เวลาในการวางหัวฉีดเข้าสกัดกั้น นานกว่า 30 นาที กว่าเพลิงจะสงบ รวมเนื้อที่เพลิงไหม้ทั้ง 2 หลัง ประมาณ 25 ตารางวา
หลังเกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิต บนชั้นที่ 2 ของบ้านต้นเพลิง จำนวน 2 ราย รายแรกอยู่ในห้องนอนด้านหน้าชื่อ นายกิตติพงศ์ หรือเอ สอนดี อายุ 36 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู รหัสบางขุนเทียน 15 สภาพศพถูกไฟคลอกไหม้ดำเป็นตอตะโก นอนคว่ำหน้าอยู่ใต้ซากเตียงนอน อีกรายเป็นชายไทยอายุ ประมาณ 55-60 ปี มีศักดิ์เป็นลุงของเจ้าของบ้าน สภาพศพถูกไฟคลอกจนไหม้เกรียมอยู่บริเวณด้านหลังของชั้นที่ 2 นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ชื่อ นางรักชนก หรือแอน สอนดี อายุ 36 ปี ภรรยาของนายกิตติพงศ์ ถูกไฟคลอกตามร่างกายเกินกว่า 50% อาการสาหัส และตัดสินใจกระโดดหนีตายลงจากห้องนอนชั้นที่ 2 ก่อนเจ้าหน้าที่จะเดินทางไปถึง จึงถูกนำตัวส่ง รพ.สมุทรสาคร เข้ารักษาในห้องปลอดเชื้ออย่างเร่งด่วน
จากการสอบสวน นายพงศ์ศักดิ์ ธงชัยดำรงค์ อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงกัน เล่าว่าที่บ้านหลังดังกล่าว มีนายกิตติพงศ์ อาศัยอยู่กับ นางรักชนก ซึ่งเป็นภรรยา และชายที่ทั้งคู่เรียกว่าลุงอีก 1 คน มีอาชีพขับรถแท็กซี่ ก่อนเกิดเหตุทั้ง 3 คน นอนอยู่ในบ้าน ก่อนที่จะมีแสงเพลิงและกลุ่มควัน พวยพุ่งอย่างรุนแรงจากชั้นล่างของตัวบ้าน เนื่องจากนางรักชนก มีอาชีพหลักเป็นแม่ค้าขายกาแฟ และเครื่องดื่มย่านตลาดคลองสาน ดังนั้นบริเวณด้านหน้าบ้านจึงมีถังแก๊สและข้าวของที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีวางเอาไว้ พอเกิดเพลิงไหม้จึงไม่มีเพื่อนบ้านคนไหนสามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในบ้านได้เลย กระทั่งเพลิงไหม้ลุกลามขึ้นไปบนชั้นที่ 2 จน นางรักชนกต้องตัดสินใจกระโดดจากหน้าต่างห้องนอนหนีตายในสภาพตามเนื้อตัวโดนไฟคลอกลงมาสู่พื้นด้านล่าง เคราะห์ร้ายที่ นายกิตติพงศ์ ผู้เป็นสามีและลุงที่เป็นญาติกันไม่สามารถ หนีได้ทัน จนต้องกลายเป็นศพอยู่ในกองเพลิง
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ภายในที่เกิดเหตุ และขอดูกล้องวงจรปิดจากเพื่อนบ้านในละแวกจุดเกิดเหตุ จากนั้นจะติดตามไปดูอาการของ นางรักชนก ที่โรงพยาบาล รวมถึงประสานญาติพี่น้อง เข้ามาให้ปากคำเพื่อระบุตัวตนผู้เสียชีวิตอีก 1 รายที่ยังไม่ทราบชื่อ ก่อนสรุปสำนวนคดี และทำเรื่องนำร่างของผู้เสียชีวิต ออกจากสถาบันนิติเวช รพ. ศิริราช ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
