เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 11 ม.ค.65 ร.ต.อ.ยุทธภูมิ ดำรงธรรม รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาดี ได้รับแจ้งเหตุจากผู้ใหญ่บ้านว่ามีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอดอยู่ภายในบ้าน หลังจากได้รับแจ้งพร้อมเจ้าหน้าที่ได้ลงตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุบริเวณบ้านไม่มีเลขที่ อยู่ในพื้นที่ ม.7 บ้านหนองแหน ต.สัมพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆยกพื้นสูงไม่มีประตูหน้าบ้าน บริเวณหน้าบ้านมีชาวบ้านผู้ใหญ่บ้านหลังจากที่ทราบข่าวได้เข้ามาดูและให้กำลังใจกับพี่สาวของผู้เสียชีวิต และพากันพูดคุยถึงเรื่องการเกิดเหตุในครั้งนี้ ส่วนบริเวณที่นอนภายในบ้านพบร่างของผู้เสียชีวิตคือ นายสีทน วงละคร อายุ 57 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพใบหน้าและศรีษะถูกไฟคลอกไหม้เกรียมอยู่บนเสื่อที่ใช้ปูนอน บริเวณหัวนอนมุมบ้านพบขันน้ำมนต์ รูปปั้นกุมารขันธ์ 5 กระถางธูปและเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆถูกวางจัดเรียงเอาไว้เหมือนทำพิธีกรรมเชิญกุมาร ทราบว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชายพิการป่วยติดเตียงเป็นโรคโปลิโอมาตั้งแต่เด็ก และมีความเชื่อว่าตัวเองมีองค์จึงได้ทำพิธีนี้มาทุกปี โดนมีพี่สาวเป็นผู้จัดเตรียมของพร้อมทั้งจัดการทำพิธีตามที่น้องชายบอกโดยมีการจุดเทียนทำขันน้ำมนต์ในพิธีด้วย
จากการสอบถาม นางมล พัดจ้อย อายุ 63 ปี (พี่สาวผู้เสียชีวิต) กล่าวว่าเมื่อเช้านี้ได้ทำพิธีกุมารให้กับน้องน้องเขาอยากได้กุมารมาอยู่ด้วย และได้จุดเทียนเพื่อทำขันน้ำมนต์เอาไว้แล้วตนก็บอกดับน้องว่าเดี๋ยวตนจะไปดูน้องอีกคนนะเดี๋ยวมา พอตนกลับเข้ามาบ้านช่วงเวลา 9.30 น.ก็เห็นว่ามีควันไฟพุ่งขึ้นบนหลังคา ตนคิดว่าไฟไหม้แก๊สรึเปล่าตนจึงปล่อยมือหลานอีกคนรีบวิ่งเข้ามาดู ก็พบว่าน้องชายได้ถูกไฟไหม้ตนจึงได้โทรแจ้งกับ ผญบ. แล้วนำน้ำมาดับไฟตามที่ ผญบ.บอก แล้วตนได้ดึงร่างของน้องออกมาหวังว่าน้องยังมีลมหายใจอยู่ ตนก็ไม่ได้คิดว่าไฟมันจะไหม้เพราะทำทุกครั้งก็ไม่มีอะไรส่วนพิธีนี้จะทำทุกปีตนและน้องมีความเชื่อว่าน้องนั้นมีองค์ ส่วนสาเหตุที่เกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ทางตนไม่ติดใจ เพราะอาจจะเกิดจากที่มีการจุดเทียนไว้แล้วด้ายสายสิญจน์อาจร่วงลงไปทำให้เกิดไฟไหม้ได้ ส่วนน้องชายของตนนั้นเป็นผู้ป่วยติดเตียงป่วยเป็นโรคโปลิโอมาตั้งแต่น้องอายุ 1 ขวบ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
จากการสอบถาม นายสมชาย แก้วดวงใจ ผญบ. ม.7 บ้านหนองแหน ต.สัมพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากพี่สาวของผู้เสียชีวิตว่าน้องชายถูกไฟไหม้อยู่ภายในบ้านจะให้ตนช่วยประสานรถน้ำมาให้ ตนได้ถามว่าไฟได้ไหม้บ้านด้วยไหมทางพี่สาวบอกว่ายังไม่ไหม้ไหม้แค่หมอนกับตัวของน้อง ตนจึงได้บอกว่าให้ตั้งสติแล้วไปเอาน้ำที่อยู่ถายในบ้านมาดับไว้ก่อนก่อนที่รถน้ำจะมา เพื่อป้องกันไฟจะลามไปไหม้บ้าน
ส่วนในขันน้ำมาต์นั้นได้มีเลขปรากฏให้เห็นผู้ที่เข้ามาดูนั้นบางคนก็มองเห็นเป็นเลขไม่เหมือนกันแต่มีอยู่คนนึงมองเป็นเลข 61 ส่วนสาเหตุการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้คาดว่าน่าจะมาจากไฟเทียนที่มีการจุดไว้เพื่อทำขันน้ำมนต์ ส่วนทางญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิตในครั้งนี้ หลังจากนั้นทางฐาติจะนำร่างของผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาและประเพณีต่อไป (ความเชื่อนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล)
ข่าว-ภาพ สายชล หนูแดง ทัตธน เหล่าหล้า สุพัตรา อาษา/ปราจีนบุรี