สถานการณ์น้ำที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากเขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำลงท้ายเขื่อน กว่า 1,200 บาตรเมตรต่อวินาที ส่งผลให้แม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลแม่น้ำน้อย เพิ่มสูงขึ้น พื้นที่ลุ่มต่ำ เช่นอำเภอเสนา อำเภอบางบาง อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งถูกน้ำเข้าท่วมหลายแห่ง
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านกระทุ่ม อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่ามีชุมชนหลายชุมชนเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำติดกับ คลองและแม่น้ำน้อย หลังจากเขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำลงท้ายเขื่อน กว่า 1,200 บาตรเมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำน้อยสูงขึ้น ตามคลองต่างๆน้ำก็มีปริมาณมากส่งผลให้เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำไปแล้วในหลายชุมชน เช่นเดียวกับ หมู่ที่ 2 ตำบลกระทุ่ม อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นางสาว ลัดดา คุ่มจะโรจน์ อายุ 43 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านกระทุ่ม กล่าวว่า พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำมีกว่า 20 หลังคาเรือน เมื่อถึงคราวน้ำท่วมก็จะท่วมก่อนเข้าและลงที่หลัง ซึ่งก็พอทำใจได้เพราะเป็นแบบนี้ทุกปี แต่ครั้งนี้เมื่อ 4 – 5 วันที่แล้วน้ำขึ้นมาแล้วก็ลงไปจนแห้ง พอมาอีกทีก็ขึ้นอีกและมาในตอนกลางคืนทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมาก็ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะเข้าออก ซึ่งถ้าถามว่ารับได้ไหมยังรับได้เพราะเราเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่ถ้าน้ำสูงขึ้นจนท่วมพื้นบ้านชั้น 2 ก็คงได้รับความเดือดร้อนและความเป็นอยู่ก็ลำบาก
ทั้งนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ประสบอุทกภัยจำนวน 6 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.บางประหัน อ.เสนา อ.ผักไห่ และอ.ท่าเรือ เนื่องจากฝนตกในพื้นที่ประกอบกับการระบายน้ำจากท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้ไม่ สามารถระบายน้ำได้ทันส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ดังกล่าว
ศักดริน พุทธคาวี /อยุธยา
