หลังจากมีผู้ใช้เฟสบุ๊คโพสเตือนภัยว่า ถูกโจรแอบมาขโมยผ้าที่นำมาซักไว้กับตู้หยอดเหรียญ เหลือทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า 2-3 ชิ้น เหตุเกิดที่ร้านบริการตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ ท้องที่หมู่ 9 ต.ควนขนุน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 14 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพโจรแสบไว้ได้
วันที่ 16 พฤษภาคม 2565 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ก็ได้พบกับ นางสุภาพร จันทรผลึก อายุ 67 ปี เจ้าของร้านตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ ได้เล่าให้ฟังว่า ตนได้เปิดร้านบริการตู้ซักผ้าหยอดเหรียญอยู่ตรงนี้มา 3-4 ปีแล้ว โดยส่วนมากจะมีแต่ลูกค้าที่นำผ้ามาซักตั้งไว้ 2-3 วันถึงจะมาเอา แต่เรื่องการขโมยเสื้อผ้ายังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพิ่งจะมีครั้งนี้เป็นครั้งแรก และยังเล่าอีกว่ากล้องวงจรปิดตนก็เพิ่งติดตั้งได้ประมาน 5 วันเอง โดยช่วงเกิดเหตุตนได้พักผ่อนอยู่ในบ้าน ก็มีลูกค้ามาตะโกนเรียกพร้อมบอกว่า ผ้าที่นำมาใส่เครื่องซักไว้ได้หายไป
จึงมาย้อนดูกล้องวงจรปิด ก็พบว่าโจรมากันทั้งหมด 3 คน มีผู้ชายอายุประมาน 40-50 ปี เป็นคนขับ มีเด็กผู้ชายสวมเสื้อสีแดงนั่งมาตรงกลางและมีผู้หญิงอายุประมาน 40-50 ปีเช่นกันนั่งซ้อนมาหลังสุด คาดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่ลูก ใช้รถจักรยานยนต์สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นยานพาหนะ ลักษณะการก่อเหตุก็จะขับมาจอดตรงหน้าเครื่องซักผ้าเพื่อส่งให้ผู้หญิงที่นั่งหลังสุดลงจากรถ
จากนั้นก็ขับไปแอบอยู่ในซอยข้างๆ ส่วนผู้หญิงเมื่อลงจากรถแล้วก็รีบเดินไปเปิดฝาเครื่องซักผ้าและเลือกหยิบผ้าออกใส่ตะกร้า จากนั้นฝ่ายผู้ชายก็จะขับรถมาจอดรับก่อนจะขับรถออกไปอย่างหน้าตาเฉย ด้านนางสุภาพรฯ ก็ได้นำภาพกล้องวงจรปิดให้กับผู้เสียหายเพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ควนขนุน
ด้าน น.ส.อาทิตยา กล้าหาญ อายุ 23 ปี ผู้เสียหายได้เล่าว่าวันที่เกิดเหตุตนและเพื่อนชายได้นำผ้ามาซักในตู้หยอดเหรียญ จากนั้นก็ไปเดินซื้อของในตลาดนัด จนเวลาผ่านไปประมาน 1 ชม. ก็ได้กลับมาเพื่อจะเอาผ้าเข้าตู้อบแห้ง แต่เมื่อมาถึงปรากฎว่าผ้าของตนที่นำมาซักได้หายไปเกือบหมด เหลือไว้ในตู้แค่ 2-3 ตัว
จึงเรียกเจ้าของร้านเพื่อขอย้อนดูกล้องวงจรปิด ถึงกับอึ้งเมื่อเห็นว่ามีคนมาขโมยผ้าของตนไปจริงๆ ตนรู้สึกแค้นใจมากและได้นำคลิปวงจรปิดไปแจ้งความไว้แล้ว และฝากบอกไปยังขโมยว่า “ตนไม่ได้ต้องการผ้าคืนแล้ว แต่ต้องการให้ผู้ก่อเหตุมารับโทษ พร้อมฝากบอกว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก ให้นึกถึงใจเขาใจเราบ้าง เพราะบางทีอาจจะมีคนอื่นที่เดือนร้อนมากกว่าตนก็ได้.”
